Multi Channel by KFC

แม้กระแสสุขภาพจะชัดเจนและหนักแน่นมากขึ้น และดูเหมือน
ว่าอาหารฟาสต์ฟู้ดที่อยู่ขั้วตรงข้ามจะได้รับผลกระทบโดยตรง
แต่สำหรับเมืองไทยฟาสต์ฟู้ดก็ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ
ของผู้บริโภค จะเห็นได้จากระดับการขยายตัวในตลาดที่สูง
ถึง 9 % ด้วยมูลค่าตลาด 3.4 หมื่นล้านบาท

โดยไก่ทอดยังเป็นเซกเม้นต์ที่ครองตลาดด้วยสัดส่วนการขาย
ถึงกว่า 40% ขยายตัวได้ในระดับ 11% และแน่นอนว่า
“เคเอฟซี” คือผู้นำตลาด

อย่างไรก็ตามด้วยปัจจัยด้านความหลากหลายของร้านอาหาร
ที่ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกเพิ่มขึ้น อีกทั้งความสะดวกสบาย
ในการเข้าถึงสินค้าก็มีมากขึ้นเช่นเดียวกัน ปัจจัยเหล่านี้ทำให้
การขยายตัวของตลาดร้านอาหารยังอยู่ในระดับสูง การช่วง
ชิงส่วนแบ่งตลาดจึงเป็นความท้าทายอย่างยิ่งยวดของ
ผู้ประกอบการ

“เคเอฟซี” รุกทุกช่องทาง

ท่ามกลางสภาวะการขับเคี่ยวอย่างหนักในตลาดร้านอาหาร
การตัดสินใจขับเคลื่อนกลยุทธ์ของเคเอฟซีมุ่งไปที่การพัฒนา
ช่องทางจัดจำหน่ายให้หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้อง
การให้ได้ทุกมิติ จะเห็นได้จากการประกาศทุ่มทุนสูงเป็น
ประวัติการณ์ถึง 2,700 ล้านบาท

โดยงบประมาณส่วนใหญ่ทุ่มไปที่การขยายสาขาโดยเฉพาะ
โมเดลแบบไดร์ฟทรู สแตนด์อะโลน (Standalone
Drive thru) ควบคู่ไปกับการพัฒนา IT  ซึ่งปี 2558 ตั้ง
เป้าหมายขยายร้านแบบไดร์ฟทรู เพิ่มอีก 15 สาขา จากเดิม
ที่มี 10 สาขา และรุกต่อเนื่องให้ครบ 100 สาขา ภายในปี
2563 หรืออีก 5 ปี ข้างหน้า ซึ่งไดร์ฟทรูจะกระจายทั้งใน
กรุงเทพฯและต่างจังหวัดโดยจะเน้นทำเลในการเปิดร้านที่
ใกล้ชิดชุมชน

สำหรับช่องทางไดร์ฟทรู สแตนด์อะโลน จะใช้งบลงทุนสูง
กว่าร้านธรรมดา 50% ทว่าคุ้มค่าในแง่การตอบโจทย์ความ
ต้องการได้มากกว่า เพราะเป็นช่องทางที่สามารถสนอง
ไลฟ์สไตล์กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มที่มีวิถีชีวิตอยู่
ในเมืองใหญ่ ต้องการความสะดวกสบาย รวดเร็ว

ซึ่งไดร์ฟ ทรู เป็นช่องทางที่สามารถซื้อสินค้าได้โดยไม่ต้อง
ลงจากรถ ไม่ต้องหาที่จอดรถหรือต่อแถวยาวเช่นที่ต้องเข้า
ไปใช้บริการที่ร้านในห้างสรรพสินค้า

นอกจากนี้ในช่วงกลางคืนไดร์ฟ ทรู จะสามารถทำให้ลูกค้าเข้า
ถึงบริการเคเอฟซีได้ เพราะส่วนใหญ่เปิดให้บริการตลอด 24
ชั่วโมงและให้บริการทุกเมนูเช่นเดียวกันร้านทั่วไป หมาย
ความว่าเวลาที่จะรองรับลูกค้าจะมีมากขึ้น เพราะให้บริการ
ได้ทั้งช่วงดึกหรือช่วงเช้าเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันเคเอฟซีได้ยกระดับในส่วนระบบไอทีและดิจิตอล
เพื่อเพิ่มความขีดความสามารถในช่องทางจัดจำหน่ายแบบ
ออนไลน์ ด้วยการจัดทำเว็บไซต์ใหม่เพื่อรองรับการสั่งซื้อ
ผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งปัจจุบันการสั่งซื้อผ่านช่องทางนี้ถึงมีมาก
ถึง 30% ซึ่งจะใช้งบลงทุนทางด้านไอทีทั้งหมดจะอยู่ที่
300 ล้านบาท

สำหรับจำนวนสาขา ณ เดือนพฤษภาคม ปี 2558 ของ
เคเอฟซีรวม 531 สาขา แบ่งเป็น ร้านปกติ 478 สาขา ,
คีออส 43 สาขา และไดร์ฟทรู 10 สาขา โดยจำนวนสาขา
ใหม่ที่เปิดให้บริการในปี 2557 ทั้งหมด 65 สาขา เป็น
ไดร์ฟทรู 10 สาขา และวางแผนจะเปิดสาขาใหม่ในปี 2558
จำนวน 55 สาขา แบ่งเป็นร้านปกติ 40 สาขา และไดร์ฟทรู
15 สาขา

และที่น่าสนใจเป็นอย่างมากคือการเปิดรับพันธมิตรรายใหม่
ที่จะเข้ามาร่วมกับบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล
(ประเทศไทย) จำกัด ในส่วนของการขยายสาขาเคเอฟซี จาก
เดิมที่มีพันธมิตรหนึ่งเดียวซึ่งร่วมกันมาถึง 31 ปี อย่าง บริษัท
เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี  ที่มีบทบาท
ในการขยายสาขาในพื้นที่เครือข่ายค้าปลีกในเครือเซ็นทรัล
ทั้งหมด

โดยกลยุทธ์นี้เปิดกว้างสำหรับนักลงทุนที่มีความพร้อมทุก
ด้าน โดยยัม เรสเทอรองตส์ ฯ จะโอนสาขาเคเอฟซีเดิม
ประมาณ 120-150 สาขา ให้พันธมิตรใหม่ที่จะเป็นผู้ถือ
ลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ และพันธมิตรใหม่ก็สามารถขยายสาขา
ใหม่ๆ ได้ ทั้งหมดนี้เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ว่า
ภายในปี 2020 เคเอฟซีจะต้องมีสาขาถึง 800 สาขาใน
ไทย

สำหรับกลยุทธ์ช่องทางจัดจำหน่ายของเคเอฟซีนั้นได้รับ
การพัฒนาอย่างจริงจังมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนได้จุด
นี้คือหัวใจของการรักษาฐานตลาด ดังนั้นจะเห็นจากยุคหนึ่ง
ที่เคเอฟซีเป็นฟาสต์ฟู้ดแบรนด์แรกที่จัดทำเว็บไซต์ เพื่อ
สนับสนุนการสั่งซื้อแบบเดลิเวอรี่อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งผู้ซื้อ
สามารถสั่งสินค้าจากเว็บไซต์ โดยจะทำการออนไลน์ไปที่
ศูนย์และจัดการสั่งซื้อภายใน 1 นาที จากนั้นจะกระจายส่ง
ตามพื้นที่ของผู้สั่ง

ทั้งนี้ การสั่งสินค้าผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.kfc.co.th
กับการสั่งผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 1150 จะทำงาน
ประสานกันอย่างลงตัว เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับ
บริการดิลิเวอรี่  โดยกลุ่มเป้าหมายสำหรับออนไลน์ออร์เดอร์
นี้เน้นไปที่กลุ่มคนทำงานตามอาคารสำนักงานต่างๆ ในช่วง
วันทำงาน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสั่งมากขึ้น ขณะที่การสั่ง
ทางโทรศัพท์นั้นกลุ่มเป้าหมายเดิมหลักๆคือ กลุ่มครอบครัว
ในวันเสาร์-อาทิตย์

              สนับสนุนโดย              
นิตยสารแมกเก็ตติ้ง (Magketing)

สามารถดาวน์โหลดนิตยสารฉบับเต็ม...ฟรี...ได้ที่    
http://www.ebooks.in.th/ebook/37623/magketing_vol12/