E-wallet / E-money คือเทรนด์ที่ร้านค้าปลีกต้องตามให้ทัน

วรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอแอล จำกัด
(มหาชน) กล่าวถึงทิศทางและแนวโน้มของธุรกิจอีคอมเมิร์ซใน
ปี 2017 ในเวที "Get Ready for E-Commerce Trends 2017"
ที่จัดขึ้นภายในงานมอบรางวัล "Priceza Awards 2016" ว่า
ในประเทศไทยมีสัดส่วนยอดขายธุรกิจออนไลน์อยู่ที่ร้อยละ
2-3 เมื่อเทียบกับค้าปลีก ซึ่งยังถือว่าน้อยมาก
โดยในความเป็นจริงสามารถเติบโตได้ถึงร้อยละ
10 ซึ่งเป็นการเติบโตที่ควรจะเป็น และคาดว่าใน 3-4 ปี นี้
ทั้งบริการ E-wallet และ E-money จะขยายตัวมากขึ้น โดย
โทรศัพท์มือถือจะเปลี่ยนเป็นประเป๋าเงินของผู้บริโภคแทน
การใช้เงินสด
"จุดสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ชไทยเติบโตไปได้มากยิ่งขึ้น
ก็คือการที่ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาใช้บริการ E-wallet
และ E-money โดยการที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ ร้านค้าปลีก
เองจะต้องหันมาใช้บริการในระบบนี้กันมากขึ้น โดยเชื่อว่า
บริการเหล่านี้จะกลายเป็นเรื่องปกติภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี
เหมือนกับการเกิดขึ้นของตู้ ATM ในยุคแรกๆ และสิ่งสำคัญ
ถ้าหากสามารถปลดล็อคในเรื่องของค่าธรรมเนียมการใช้บริการ
ได้ คาดว่าภายใน 2 ปีระบบก็จะติดตลาด คนไทยก็จะหันมาใช้
บริการซื้อสินค้าออนไลน์กันมากและธุรกิจอีคอมเมิร์ชไทยก็จะ
เติบโตไปได้มากยิ่งขึ้น"
สนับสนุนโดย
นิตยสารแมกเก็ตติ้ง (Magketing)
อ่านนิตยสารฉบับเต็ม...ฟรี...และบทวิเคราะห์อื่นๆได้ที่
https://www.facebook.com/magketingonline/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น