ทอมัส แอลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison) "พ่อมดแห่งเมนโลพาร์ก"
ทอมัส แอลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison) เป็น
นักประดิษฐ์และนักธุรกิจชาวอเมริกัน ผู้ซึ่งประดิษฐ์อุปกรณ์
ที่สำคัญต่าง ๆ มากมาย จนได้ฉายา
"พ่อมดแห่งเมนโลพาร์ก"
ในวัยเด็กด้วยความที่เอดิสันมีมีนิสัยสนใจในสิ่งรอบตัว
ไม่ใช่เนื้อหาในตำราคร่ำครึ สิ่งที่เขาสนใจถามครูจึงไม่ใช่
เรื่องที่ครูสอน แต่เป็นเรื่องนอกตำรา จึงมักถูกครูดุเสมอ
ว่าเป็น “เด็กหัวขี้เลื่อย”
ในช่วงวัยรุ่นเอดิสันเปลี่ยนงานบ่อยมาก เช่น เคยเป็น
พนักงานส่งโทรเลข ในปีเดียวเขาเคยเปลี่ยนบริษัท
ทำงานถึง 4 ครั้ง ตามสถานที่ต่าง ๆ ในอเมริกาและ
แคนาดา
แม้ชีวิตจะประสบปัญหามาโดยตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่เอดิสัน
ไม่เคยละทิ้งคือความพยายามและมุ่งมั่นทำในสิ่งที่ตนเอง
ชื่นชอบและมองว่าเป็นสิ่งที่ดี นั่นคือ การค้นคว้าและทดลอง
ทางวิทยาศาสตร์เพื่อคิดค้นสิ่งต่างๆอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่ง
ช่วงหนึ่งของชีวิตที่ต้องขึ้นไปขายของเพื่อยังชีพประเภทลูกอม
หนังสือพิมพ์ และผักบนรถไฟจากพอร์ตฮิวรอนที่วิ่งมายัง
เมืองดีทรอยต์ เขาได้ทดสอบทางเคมีหลายอย่างในระหว่าง
ที่ขายของบนรถไฟ จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุและถูกโยนลงจาก
รถไฟ
ก่อนจะได้ฉายา "พ่อมดแห่งเมนโลพาร์ก" เอดิสันประสบ
ความล้มเหลวในการทดลองค้นคว้าสร้างสิ่งประดิษฐ์มานับ
ครั้งไม่ถ้วน ขณะที่คนอื่นมองว่าการที่ได้ทดลองมาเกือบ
พันครั้งแล้วยังไม่สำเร็จ คือ ความล้มเหลว แต่เอดิสันกลับ
มองว่า "เขาได้เรียนรู้มากกว่าใคร ๆ"
ทัศนคติเชิงบวกเช่นนี้ทำให้เอดิสันเจ้าของฉายา "พ่อมดแห่ง
เมนโลพาร์ก" เป็นเจ้าของสิทธิบัตรการประดิษฐ์ต่างๆมาก
มาย และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท เจเนอรัลอิเล็กทริก
(General Electric) บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ของโลก
ในที่สุด
เอดิสันเคยตอบคำถามที่มีผู้สงสัยว่าคิดอย่างไรกับการที่คน
ทั่วไปเรียกเขาว่า “อัจฉริยะ” เอดิสันตอบว่า “คำว่าอัจฉริยะ
ในความคิดของผม ประกอบด้วยพรสวรรค์เพียง 1% ส่วนอีก
99% มาจากความพยายาม”
สนับสนุนโดย
นิตยสารแมกเก็ตติ้ง (Magketing)

อ่านนิตยสารฉบับเต็ม...ฟรี...และบทวิเคราะห์อื่นๆได้ที่
https://www.facebook.com/magketingonline/
นักประดิษฐ์และนักธุรกิจชาวอเมริกัน ผู้ซึ่งประดิษฐ์อุปกรณ์
ที่สำคัญต่าง ๆ มากมาย จนได้ฉายา
"พ่อมดแห่งเมนโลพาร์ก"
ในวัยเด็กด้วยความที่เอดิสันมีมีนิสัยสนใจในสิ่งรอบตัว
ไม่ใช่เนื้อหาในตำราคร่ำครึ สิ่งที่เขาสนใจถามครูจึงไม่ใช่
เรื่องที่ครูสอน แต่เป็นเรื่องนอกตำรา จึงมักถูกครูดุเสมอ
ว่าเป็น “เด็กหัวขี้เลื่อย”
ในช่วงวัยรุ่นเอดิสันเปลี่ยนงานบ่อยมาก เช่น เคยเป็น
พนักงานส่งโทรเลข ในปีเดียวเขาเคยเปลี่ยนบริษัท
ทำงานถึง 4 ครั้ง ตามสถานที่ต่าง ๆ ในอเมริกาและ
แคนาดา
แม้ชีวิตจะประสบปัญหามาโดยตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่เอดิสัน
ไม่เคยละทิ้งคือความพยายามและมุ่งมั่นทำในสิ่งที่ตนเอง
ชื่นชอบและมองว่าเป็นสิ่งที่ดี นั่นคือ การค้นคว้าและทดลอง
ทางวิทยาศาสตร์เพื่อคิดค้นสิ่งต่างๆอยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่ง
ช่วงหนึ่งของชีวิตที่ต้องขึ้นไปขายของเพื่อยังชีพประเภทลูกอม
หนังสือพิมพ์ และผักบนรถไฟจากพอร์ตฮิวรอนที่วิ่งมายัง
เมืองดีทรอยต์ เขาได้ทดสอบทางเคมีหลายอย่างในระหว่าง
ที่ขายของบนรถไฟ จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุและถูกโยนลงจาก
รถไฟ
ก่อนจะได้ฉายา "พ่อมดแห่งเมนโลพาร์ก" เอดิสันประสบ
ความล้มเหลวในการทดลองค้นคว้าสร้างสิ่งประดิษฐ์มานับ
ครั้งไม่ถ้วน ขณะที่คนอื่นมองว่าการที่ได้ทดลองมาเกือบ
พันครั้งแล้วยังไม่สำเร็จ คือ ความล้มเหลว แต่เอดิสันกลับ
มองว่า "เขาได้เรียนรู้มากกว่าใคร ๆ"
ทัศนคติเชิงบวกเช่นนี้ทำให้เอดิสันเจ้าของฉายา "พ่อมดแห่ง
เมนโลพาร์ก" เป็นเจ้าของสิทธิบัตรการประดิษฐ์ต่างๆมาก
มาย และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท เจเนอรัลอิเล็กทริก
(General Electric) บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ของโลก
ในที่สุด
เอดิสันเคยตอบคำถามที่มีผู้สงสัยว่าคิดอย่างไรกับการที่คน
ทั่วไปเรียกเขาว่า “อัจฉริยะ” เอดิสันตอบว่า “คำว่าอัจฉริยะ
ในความคิดของผม ประกอบด้วยพรสวรรค์เพียง 1% ส่วนอีก
99% มาจากความพยายาม”
สนับสนุนโดย
นิตยสารแมกเก็ตติ้ง (Magketing)

อ่านนิตยสารฉบับเต็ม...ฟรี...และบทวิเคราะห์อื่นๆได้ที่
https://www.facebook.com/magketingonline/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น