เจาะลึกยุทธศาสตร์ ปตท.รุกค้าปลีก




จากอัตราส่วนของกำไรในธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ปตท.มีการจัดวางยุทธศาสตร์เพื่อรุกธุรกิจค้าปลีกอย่าง
จริงจัง ทั้งในและนอกพื้นที่ปั๊มน้ำมัน โดยขณะนี้กลุ่มธุรกิจ
ค้าปลีกของ ปตท.ได้กระจายตัวในหลายรูปแบบดังนี้

1.คอมมูนิตี้มอลล์  “เดอะคริสตัล พีทีที” ซึ่งเป็นการพัฒนา
ร่วมกับบริษัท เค.อี.แลนด์ จำกัด บนถนนชัยพฤกษ์ เปิดให้
บริการในช่วงกลางปี 2557

 2.ร้านค้าสะดวกซื้อ  ปตท.เป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อ 2
แบรนด์  ประกอบด้วย “จิฟฟี่ (Jiffy)”เป็นแบรนด์ที่พ่วงมากับ
ดีลซื้อกิจการปั๊มเจ็ท ส่วนร้านจิฟฟี่ ได้รับสิทธิ์เปิดเฉพาะปั๊ม
ปตท. ที่เป็นเจ็ทเดิม ปัจจุบันมีมากกว่า 150 สาขา

และ“Joy Cafe Convenience”ซึ่งสร้างความแตกต่าง
จากจิฟฟี่  ด้วยแนวคิด Cafe Convenience คือ การเปิด
บริการพร้อมร้านกาแฟ Cafe Amazon และร้านชาไข่มุก
Pearly เพื่อสร้างให้จุดแวะพักเป็นแหล่งชอปปิ้งแบบสบายๆ
ด้วยสโลแกน “ประสบการณ์ใหม่ของการชอปปิ้งแบบไม่ซ้ำใคร” 

สำหรับขนาดมาตรฐานของ Joy Cafe Convenience
ใช้พื้นที่เฉลี่ย 150 ตารางเมตร เน้นจุดขายเรื่องสินค้าและ
บริการที่มีมากกว่าร้านสะดวกซื้อทั่วไป นอกจากโซนร้านกาแฟ
Cafe Amazon และชานมไข่มุก Pearly Tea จะมีโซน
เบเกอรี่ โซนบิวตี้ และโซน Price Point หรือสินค้าราคาเดียว
โดยกำหนดราคาเดียว 50 บาทต่อชิ้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดขาย
ที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน

Joy Cafe Convenience เปิดแล้ว 4 สาขา ได้แก่ สาขา
อาคารบางกอกบิสซิเนสเซ็นเตอร์ ย่านเอกมัย, สาขากิ่งแก้ว,
สาขาแยกทศกัณฑ์ พุทธมณฑลสาย 2 และสาขาในโครงการ
สตาร์อะเวนิว วีว่า เทอเรส จ. เชียงใหม่ เปิดให้บริการ 24
ชั่วโมง  

นอกจากพื้นที่ในปั๊มแล้วจะมีการนำร่องขยายสาขาออกสู่ทำเล
ย่านชุมชน อาคารสำนักงาน เขตเมือง ทั้งในกรุงเทพฯ และ
ต่างจังหวัด

หากประสบความสำเร็จมีแผนขายแฟรนไชส์ เพราะเป้าหมาย
การขยายสาขาจะรวดเร็วยิ่งขึ้น   ไม่ใช่เพียงแต่การบุกแนวรบ
ใหม่ Joy Cafe Convenience จะเข้ามารองรับการ
แข่งขันกับปั๊มน้ำมันอื่นโดยเฉพาะบางจากและพีทีต่างพยายาม
สร้างความแปลกใหม่ในแง่ธุรกิจเสริม เพื่อดึงลูกค้าเข้าสถานี
บริการน้ำมัน และสร้างรายได้กลุ่มธุรกิจNon-oil

3.ซูเปอร์มาร์เก็ต จิฟฟี่ ซูเปอร์เฟรชมาร์เก็ต เปิดสาขาแรกใน
สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ย่านบางแค รูปแบบมินิซูเปอร์มาร์เก็ต
พื้นที่ 500 ตารางเมตร มีสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารสด
สินค้าพร้อมทานแบรนด์ Jiffy’s Choice ร้านกาแฟ
Cafe’ Amazon และร้านขายยา จากนั้นซึ่งได้ทำการปรับ
ให้เต็มรูปแบบมากขึ้นสำหรับเปิดในโครงการเดอะคริสตัล
พีทีที ภายใต้ชื่อ จิฟฟี่ พลัส ซูเปอร์มาร์เก็ต (Jiffy Plus
Supermarket) พื้นที่มากกว่า 1,000 ตร.ม.

โดยวางคอนเซ็ปต์ “Daily freshness, Finely
selected” จำนวนสินค้ามากกว่า 10,000 รายการ เช่น
อาหารสด ผักผลไม้ อาหารแช่แข็ง อาหารทะเล ขนมขบเคี้ยว
สินค้านำเข้าต่างๆ อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือน มีบริการ
แปรรูปอาหารสด รวมถึงอาหารพร้อมทานแบรนด์
Jiffy’s Choice

4.ชอปปิ้งออนไลน์ CLICK2JOY ซึ่งวางแผนให้เป็น
Marketing Arm เพื่อเป็นช่องทางกระจายสินค้าให้
ธุรกิจค้าปลีกในเครือทั้งหมด และเป็นการเข้าสู่อี-คอมเมิร์ซ
เต็มรูปแบบ โดยขณะนี้จำหน่ายสินค้า 5 หมวดหลัก คือ
หมวดสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม, หมวดสินค้าแฟชั่น,
หมวดไอทีและเครื่องใช้ไฟฟ้า, หมวดเครื่องใช้ภายในบ้าน
และหมวดคูปองแพ็กเกจต่างๆ

5. ธุรกิจศูนย์กระจายสินค้า (Distribution Center: DC)
เป็นการลงทุนเพื่อรองรับธุรกิจค้าปลีกในเครือ ซึ่งขยายไลน์
อย่างกว้างขวาง โดยแห่งแรกใน อ.วังน้อย จ.อยุธยา หลังจาก
ที่ผ่านมาใช้บริการดีซีของกลุ่มท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต กระจาย
สินค้าสู่ร้านสาขา
     
การรุกเข้ามาในตลาดค้าปลีกของกลุ่มธุรกิจปั๊มน้ำมันจะเห็น
ว่ามุ่งไปในรูปแบบของโมเดิร์นเทรดขนาดเล็กอย่างร้าน
สะดวกซื้อและมินิซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งลงตัวทั้งด้านขนาดพื้นที่
และสามารถตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบายได้ดี
นอกจากนี้ร้านสะดวกซื้อเป็นค้าปลีกที่มีอัตราการขยายตัวสูง
มาอย่างต่อเนื่อง

โดยสมาคมผู้ค้าปลีกไทยให้ตัวเลขการขยายตัวไว้ที่เฉลี่ย10%
ต่อปี อย่างไรก็ตามทำเลเกรดเอ สำหรับการขยายสาขานั้นมี
จำนวนลดลงอย่างรวดเร็ว ทำเลของปั๊มน้ำมันซึ่งส่วนใหญ่อยู่
ติดถนนจึงเป็นทางเลือกที่สอดรับกับถานการณ์ของ
ร้านสะดวกซื้อได้ลงตัว

              สนับสนุนโดย              
นิตยสารแมกเก็ตติ้ง (Magketing)



อ่านนิตยสารฉบับเต็ม...ฟรี...และบทวิเคราะห์อื่นๆได้ที่

https://www.facebook.com/magketingonline/

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม