เจาะแนวคิดเซ็นทรัลร่วมทุนญี่ปุ่น อุดช่องว่าง "ค้าปลีกไซส์เล็ก”

ยุทธศาสตร์ขยายการลงทุนของบริษัท เซ็นทรัล รีเทล
คอร์ปอเรชั่น (ซีอาร์ซี) ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็น
ปรากฏการณ์ที่เข้มข้นอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศที่ได้
เห็นถึงมิติของการอุดช่องว่างด้วยการเติมเซกเม้นต์ใน
ตลาดค้าปลีกของเซ็นทรัลให้เต็ม เป็นการสร้าง
แสนยานุภาพให้น่าเกรงขามมากขึ้น
ที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นการขยายฐานผ่านพันธมิตร
ทางธุรกิจจากโซนเอเชีย จากเดิมที่ซีอาร์ซีจะร่วมกับทุนจาก
ฝั่งตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กซี หรือท็อปส์
ซูเปอร์มาร์เก็ต
ทั้งยังเป็นการมุ่งไปค้าปลีกขนาดเล็กที่ซีอาร์ซียังเป็นรอง
คู่แข่งขัน อาทิ ร้านสะดวกซื้อ , ร้านค้าปลีกสินค้าเพื่อ
ความงามและสุขภาพ (Drug store)
เริ่มจากการเทกโอเวอร์ร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ทจาก
ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเข้าสู่ตลาดเมืองไทยครั้งแรกด้วยการเป็น
พันธมิตรกับเครือสหพัฒน์ฯ จากนั้นสัมพันธภาพสิ้นสุดลง
เมื่อสหัพฒน์ฯหันมาสร้างแบรนด์ 108 Shop ขึ้นมาแทน
ซึ่งจากรอยต่อนี้ทั้ง 2 แบรนด์มีสถานะลุ่มๆดอนๆไม่
แตกต่างกัน
กระทั่งปี 2555 บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้
ซื้อหุ้นและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท สยามแฟมิลี่มาร์ท จำกัด
จำนวน 50.29% ที่เหลือเป็นของบริษัท แฟมิลี่มาร์ท ญี่ปุ่น
48.20% และบริษัท อิโตชู และโรบินสัน ถือหุ้นรวมกัน 1.51%
แฟมิลี่มาร์ทใต้ปีกซีอาร์ซีจึงมีความพร้อมทั้งด้านเงินทุน เครือ
ข่ายค้าปลีกในตลาดฟู้ด รีเทลที่จะทำให้การบริหารต้นทุนมี
ประสิทธิภาพมากขึ้นและโปรโมชั่นที่สามารถร่วมกับเครือ
เซ็นทรัลผ่านบัตรเดอะ วัน การ์ด
แฟมิลี่มาร์ทตั้งเป้าขยายสาขาทั้งรูปแบบที่บริษัทลงทุนเอง
และสาขาแฟรนไชส์ให้ครบ 3,000-3,500 สาขา ภายใน
ปี 2561 หรืออย่างช้าต้นปี 2562
นอกจากนี้ซีอาร์ซียังเลือกที่จะอุดช่องว่างในตลาดค้าปลีก
ขนาดเล็กด้วยการเข้าลงทุนในร้านค้าปลีกสินค้าเพื่อ
ความงามและสุขภาพ (Drug store) ด้วยการจัดตั้งบริษัท
ร่วมทุน เซ็นทรัลและมัทสึโมโตะ คิโยชิ จำกัด ที่มี
บริษัท เซ็นทรัลฟู้ด รีเทล จำกัด ถือหุ้นอยู่ 51% และ
กลุ่มเอ็มเค กรุ๊ป เจ้าของร้านมัทสึโมโตะจากญี่ปุ่นถือหุ้น
49% ซึ่งดีลการร่วมทุนครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของฝ่ายญี่ปุ่น
ในการขยายฐานออกจากประเทศ
มัทสึโมโตะ คิโยชิ สโตร์ ในญี่ปุ่นอยู่ในตลาดมานานกว่า 83 ปี
ปัจจุบันมีสาขากว่า 1,530 แห่ง สามารถครองส่วนแบ่งการ
ตลาดสูงสุดในญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน ด้วยนโยบายที่ให้
ผู้จัดการร้านแต่ละสาขาจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ 30%
สำนักงานใหญ่ 70% โดยมีแนวความคิดว่าผู้ที่อยู่ในพื้นที่
และได้สัมผัสกับลูกค้าย่อมเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าอย่างดี
ซึ่งเป็น Key Factor สำคัญที่ทำให้มัทสึโมโตะ คิโยชิ ใน
ญี่ปุ่นประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
ในไทยมีสาขาทั้งหมด 3 แห่ง เป็นพื้นที่ในศูนย์การค้า
เซ็นทรัล ประกอบด้วย ลาดพร้าว , ปิ่นเกล้า และฟิวเจอร์
พาร์ครังสิต ล่าสุดได้เปิดสาขา 4 ที่เซ็นทรัล อีสต์ วิลล์ คาดว่า
จะเปิดครบ 6-7 สาขาภายในปีนี้ ใช้งบฯประมาณ 4 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามแม้จะร่วมทุนกับกลุ่มซีอาร์ซีแต่ในสัญญาระบุ
ว่าไม่ได้มีข้อจำกัดในการขยายสาขาไปยังพื้นที่ของ
ศูนย์การค้าอื่น ๆ ซึ่งน่าสนใจและมีศักยภาพในการขยายไป
พื้นที่รอบนอก
ขณะนี้ร้านสะดวกซื้อและร้านดรักสโตร์เป็นค้าปลีกเป็น
ตลาดที่มีอัตราการขยายตัวโดดเด่นและยังมีแนวโน้ม
ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ตรงข้ามค้าปลีกขนาดใหญ่
ระดับการขยายตัวเริ่มลดเพดานต่ำลง ซึ่งจะเท่ากับว่า
อนาคตของซีอาร์ซีควรมุ่งสร้างความสมดุลเพื่อรักษาฐาน
ที่มั่นในตลาดค้าปลีก ทว่าการเข้าสู่ตลาดช้ากว่าคู่แข่งขัน
จำเป็นต้องใช้ทางลัดด้วยการจับขั้วกับพันธมิตรญี่ปุ่นซึ่ง
มีความเชี่ยวชาญเพื่อร่นเวลาในการแข่งขันซึ่งจะช้าไม่ได้
แม้นาทีเดียว
สนับสนุนโดย
นิตยสารแมกเก็ตติ้ง (Magketing)
อ่านนิตยสารฉบับเต็ม...ฟรี...และบทวิเคราะห์อื่นๆได้ที่
https://www.facebook.com/magketingonline/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น